ไข้หวัดใหญ่ ป้องกันได้ด้วย “วัคซีน”
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซ่า ซึ่งมีการระบาดเป็นช่วงๆ ในหน้าฝนและหน้าหนาว เป็นเชื้อที่มีโอกาสกลายพันธ์ที่รุนแรงได้ สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ทางการหายใจ ไอ จาม อาการทั่วไป จะคล้ายไข้หวัดจากเชื้ออื่นๆ แต่มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรง และเกิดโรคแทรกซ้อนได้มากกว่า ผู้ป่วยจะมีน้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ มีไข้สูง ปวดศรีษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว โดยทั่วไปจะมีอาการ 2-3 วัน แต่บางรายอาจมีอาการรุนแรง เช่น ปอดบวม และจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ประชาชนกลุ่มใดควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย มะเร็งที่กำลังให้เคมีบำบัดเบาหวาน
- บุคคลที่มีอายุ 65 ขึ้นไป
- หญิงมีครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
- เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี
- ผู้พิการทางสมอง ข่วยเหลือตัวเองไม่ได้
- โรคธาลัสซิเมีย หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมถึงผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ)
- ผู้มีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมีมวลตั้งแต่ 35 กิโลกรัม ต่อ ตารางเมตร
****ในปี 2557 ภาครัฐสนับสนุนการให้วัคซีน โดยเน้นกลุ่มที่ 1-4 ****
“วัคซีน” ต้องฉีกซ้ำหรือไม่
วัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดได้ตลอดปี วัคซีนนี้ต้องฉีดซ้ำทุก 1 ปี ถ้าต้องการป้องกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับเด็กต่ำกว่า 9 ปี ที่รับการฉีควัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นปีแรก ควรได้รับ 2 เข็ม โดยเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1 เดือน ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีควัคซีน คือ ก่อนฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม) และก่อนฤดูหนาว (เดือนตุลาคม) เนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มมีการระบาด