โครงการส่งเสริมสุขภาพตาเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช


สภาวะตาบอดของประเทศไทย ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙-๒๕๕0 พบว่าประชากรไทยมีความชุกของตาบอดร้อยละ 0.๕๙ และสายตาเลือนรางร้อยละ ๑.๕๗ สาเหตุตาบอดและสายตาเลือนรางที่พบมากที่สุดคือ ต้อกระจก สาเหตุสายตาพิการมากที่สุดคือ มีความผิดปกติของสายตาและไม่มีแว่นตาใส่ โรคตาที่เป็นปัญหาสาธารณสุขของประชากรในประเทศไทยได้แก่ โรคต้อกระจก, โรคต้อหิน ,โรคจอประสาทตา, โรคตาบอดในเด็กและโรคจอประสาทตาผิดปรกติในเด็กคลอดก่อนกำหนด รวมทั้งโรคกระจกตา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เห็นความสำคัญปัญหาดังกล่าว และได้กำหนดจัดทำแนวทางการพัฒนาระบบบริการสุขภาพสาขาจักษุวิทยาขึ้นในการพัฒนาศักยภาพขีดความสามารถของระบบบริการทั้งด้านการตรวจวินิจฉัย บำบัด รักษา ส่งเสริม ป้องกันโรค รวมถึงการส่งต่อและการประเมินผลการกำกับติดตามดูแลอย่างต่อเนื่องในผู้ป่วยโรคตาทั้งระบบเพื่อลดอัตราตาบอดในประเทศไทยให้ต่ำกว่า 0.๕0% โดยใช้
แนวทางการแพทย์ทางเลือกเพื่อให้ประชาชนสุขภาพดีถ้วนหน้า และมีคุณภาพชีวิตที่ดีซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในระบบสาธารณสุข นอกเหนือไปจากการป้องกัน การรักษาและการฟื้นฟู ซึ่งจะช่วยลดปัญหาตาบอด สายตาเลือนรางและสายตาพิการลงได้ โดยใช้ศาสตร์การแพทย์ การอบรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้บุคลากร มีความรู้ ทักษะ ความเข้าใจในการดูแลตาด้วยวิธีการแพทย์ทางเลือก สามารถปฏิบัติตนได้ถูกวิธีในการการดูแลตาส่งผลให้มีสุขภาพดวงตาที่สมบูรณ์ และเป็นทางเลือกของบุคคลากรของการรักษาและป้องกันโรคนอกเหนือจากศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบัน การแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทย ทั้งนี้การจัดโครงการดังกล่าวยังเป็นการเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวา มหาราช อีกด้วย อันเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในการอบรมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากศูนย์รักษ์ดวงตาวิถีธรรมชาติในการสนับสนุนวิทยากร โดยมีผู้เข้ารับการอบรมจำนวน ๕o คน ในระหว่างวันที่ ๑๑ – 12 พฤศจิกายน ๒๕๕๖